ไทยพีบีเอส ควรเป็นอย่างไร
คำถามท้าความคิด- ถ้าคุณเป็นผู้อำนวยการ /กรรมการ/ภาครัฐที่ต้องดูแลองค์กรแบบนี้ คุณจะมีแนวทางอย่างไร คำตอบยาวมากค่ะ ถ้าเป็นผู้อำนวยการ ดิฉันขอคณะกรรมการที่เข้าใจเรื่องของ PBS หรือ PSB (การแพร่ภาพเป็นบริการสาธารณะ) อย่างแท้จริงด้วย ถ้ากรรมการไม่เข้าใจก็ขอให้ปล่อยให้ดิฉันและทีมงานที่เสนอตัวเข้ามาทำได้ทำ แล้วคอยดูผล ขอให้กรรมการถือพระราชบัญญัติเป็นไม้บรรทัดคอยวัดผลงาน แทนการถือระเบียบราชการคอยวัดทุกฝีก้าว โดยไม่ให้ความสำคัญหลักกับผลงานขององค์กร) คณะกรรมการที่จะรับรู้ว่า ไทยพีบีเอส เป็นทั้งเจ้าของสถานีและผู้ผลิตรายการที่ไม่ต้องแข่งขันกับใคร จึงอาจจะเฉื่อยและหย่อนประสิทธิภาพได้ง่าย ดังนั้นคณะกรรมการและผู้อำนวยการจะต้องมี KPI เพื่อให้บรรลุผลในการเป็น provider ที่มีความสามารถ นำเสนอรายการคุณภาพ และเป็น distributor ที่มีประโยชน์ต่อสังคม สามารถหารายการมีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมมาป้อนผู้แพร่ภาพในประเทศได้ ยกตัวอย่างสิ่งที่อาจจะแปลงเป็น KPI ได้ดังนี้ การทำหน้าที่ provider ไม่จำเป็นต้องผลิตเองเพื่อแข่งขันกับเอกชน แต่ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการผลิตภาพยนตร์ที่มีสาระได้เติบโต จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมากกว่า โดยการคัดเลือกผู้ทำรายการต้องได้สมดุลระหว่างคนมืออาชีพเดิม กับคนหน้าใหม่แต่มีผลงานดีมีศักยภาพที่จะเติบโต วัดผลคุณภาพได้หลายทาง เช่น *สามารถขายรายการที่ผลิตได้ ให้กับสถานีอื่นทั้งในและต่างประเทศ ทั้งสถานีที่ทำเพื่อการค้าและในสถาบันการศึกษา เพราะนี่คือจุดวัดความสามารถในการแข่งขันที่ดีที่สุด และไทยพีบีเอสก็คงไม่อาจจะอ้างได้ว่ายากไป เพราะประเทศเพื่อนบ้านก็ดูรายการโทรทัศน์ของเราและประเทศเรามีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเป็นสิบล้านคน น่าจะมีผู้สนใจเรื่องราวด้านต่างๆ ของไทย สุวรรณภูมิ หรืออาเซียน จำนวนไม่ใช่น้อย *สามารถขายแผ่น DVD สารคดีเหล่านี้ได้ วัดผลงานจากรายรับค่าขายสินค้า + วัดผลงานจากการได้รับการสนับสนุนรายการ (ทั้งเป็นเงิน และเป็นสินค้าและบริการ) และเงินบริจาคคิดเป็นจำนวนเงิน/ปี ด้วย *ผู้ผลิตมืออาชีพ สามารถนำผลงานไปประกวดหรือขายในต่างประเทศได้ด้วยตนเองด้วย และกลายเป็นผู้ผลิตระดับสากล *ผู้ผลิตอิสระ ผู้ผลิตหน้าใหม่ ทั้งนิสิตนักศึกษาและผู้สนใจ ฯลฯ มีเวทีแสดงออกและสามารถก้าวต่อไปเป็นมืออาชีพได้ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ โดยที่ทางไทยพีบีเอสออกไปเสาะแสวงหาและพัฒนาแทนการรอรับข้อเสนอ และเวลาออกอากาศได้รับการจัดสรรอย่างโปร่งใส ชัดเจน และรายการดีจริง ไม่ใช่สมัครเล่นแบบทำเล่นๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้วัดได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การทำหน้าที่ distributor สารคดีของคนอื่นๆ ควรทำและต้องวัดได้ ทั้งด้วย *จำนวนรายการและการกระจายของรายการ *จำนวนผู้ชม และ *ผู้ร่วมซื้อรายการไปเผยแพร่ งานจัดหาและdistribute เป็นการช่วยสังคมเพราะ ๑. ผู้ชมควรมีโอกาสได้รับชมรายการดีที่ผู้ชมประเทศอื่นๆ ได้ชม หรือสาธารณชนที่อื่นได้เห็น (เช่น ภาพยนตร์สารคดีดีๆ ที่ฉายในพิพิธภัณฑ์ หรือองค์กรที่ให้การศึกษานอกระบบจัดทำขึ้น เป็นต้น) เพราะอะไรๆ ก็ไร้พรมแดน เรื่องนี้ก็ควรเช่นเดียวกัน ๒. เมื่อผู้ชมได้ “ชิม” รายการดี ให้ความรู้ที่นำเสนออย่างง่ายและกระชับแล้ว รายการที่ไม่ค่อยดีนักก็จะเอามาหลอกผู้ชมไม่ได้อีกต่อไป ๓. รายการที่เป็นสากลไม่จำเป็นต้องผลิตเอง แต่ควรทำอีกสองประการเพื่อให้ผู้ชมได้ประโยชน์มากขึึ้นคือ ก. ผลิตตอนเสริม เพื่อให้ผู้ชมได้เข้าใจสังคมไทยในบริบทโลกด้วย ข. รายการที่ออกอากาศครั้งแรกหรือ รีรัน ควรมีรายการที่พูดภาษาอังกฤษในฟิล์ม และมี subtitle ภาษาอังกฤษด้วย (เผื่อตอนไหนตามไม่ทัน เข้าใจไม่ชัดก็จะได้อ่านประกอบได้) จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ฝึกภาษาอังกฤษไปด้วยในตัว ๔. เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพราะสถานีโทรทัศน์ไม่ได้มีเฉพาะที่ออกอากาศ ยังมีสถานีเฉพาะกิจในโรงพยาบาล ฯลฯ ซึ่งอาจจะซื้อรายการเหล่านี้ไปฉาย แม้แต่ช่องที่มีอยู่ บางครั้งก็อาจจะสนใจโดยที่ไม่ต้องไปแย่งซื้อ เท่ากับเป็นการร่วมกันซื้อหรือวางแผนร่วมกันเพื่อเพ่ิมอำนาจต่อรองในการซื้อรายการ รายการที่หลากหลาย รายการที่สมควรนำเผยแพร่มีมากมาย บางข้อเคยพูดตั้งแต่ช่วงระดมสมองออกโทรทัศน์ในระยะแรกตั้งไทยพีบีเอส (โดยก่อนไปพูดในโทรทัศน์ ได้รับฝากความคิดไปจากคณาจารย์ในจุฬาฯ ด้วย) คือ •รายการอภิปราย สัมมนาวิชาการ ปาฐกถา นิทรรศการด้านวิทยาศาสตร์ ธุรกิจ ศิลปะ เทคโนโลยี รายการคอนเสิร์ต รายการการแสดงบนเวที ทั้งน้อยใหญ่ ทั้งกลางแจ้งและในร่ม ฯลฯ ที่มีจัดเป็นรายวันทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งถ้าทางสถานีทำการบ้าน และตัดต่อรายการให้ดี ก็จะเป็นสารคดีที่ใช้การได้ รายการเช่นนี้เปิดโอกาสให้ผู้สนใจแต่ไม่มีเวลาหรือโอกาสจะชมของจริงได้ดูทางโทรทัศน์ เป็นการสร้างสังคมแห่งความรู้ที่ทันๆ กันขึ้นมา และไทยพีบีเอส เคยทำบ้างในระยะแรก แต่ยังไม่ได้ตัดต่ออย่างดี •เทศกาลต่างๆ วันสำคัญต่างๆ ก็เป็นโอกาสในการนำเสนอสารคดีให้เนื้อหาไปกับวันนั้นๆ (แต่ไม่ใช่เปิดเวทีนั่งพูดว่าวันนั้นสำคัญอย่างไร ที่ชวนให้หาวแล้วเปลี่ยนช่อง) มีวันต่างๆ ที่ได้ชื่อว่า “แห่งชาติ” หรือ “ของโลก” หลายวันในหนึ่งเดือน ช่วงครึ่งแรกของปี 2560 …