Big Data ในกระทรวงสาธารณสุข: เรื่องง่ายที่ยิ่งใหญ่
Data บ้านเรามีอยู่ทั่วไป แต่… กระจัดกระจาย (scattered) ไม่สมบูรณ์ (incomplete) ไม่เป็นรูปแบบเดียวกัน (not uniformed) ไม่เชื่อมโยงกัน (not integrated) ไม่มั่นใจในความถูกต้องเพราะขาดการสอบทานหรือขาดการจัดเก็บอย่างเป็นระบบ (lack of data integrity) และ มักไม่เป็นที่เปิดเผยเพื่อผู้อื่น (inaccessible) จึงทำให้เป็น Big Data ยาก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำไม่ได้ กล่าวโดยเฉพาะสำหรับกระทรวงสาธารณสุข ข้อมูลรวมหาได้ง่ายมาก หรืออันที่จริงไม่ต้องหาเลย ถ้ามีเป้าหมายว่าทุกข้อมูลจะต้องใช้ประโยชน์ได้หลายแบบ โดย… หนึ่ง โรงพยาบาลนำเข้าข้อมูลเป็นรูปแบบเดียวกัน และด้วยคำจำกัดความที่เหมือนกัน) ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลที่ใดในประเทศนี้ สอง นำเข้าครั้งเดียว ใช้ได้ทั่วทั้งระบบเล็กในโรงพยาบาล และระบบใหญ่ทั้งประเทศ เมื่อมีฐานข้อมูลเดียวกันที่เชื่อถือได้ (ดูภาพจากบทความที่แล้วเรื่อง sharing economy ที่เป็นภาพดาต้าจากท้องฟ้าอากาศ เป็น input เข้ากรวยไปออกมาเป็น output เป็นกลุ่มก้อนอีกหลายแบบ) ก็เหมือนวัตถุดิบที่ได้คุณภาพเดียวกัน ผู้ใดใคร่นำไปใช้เพื่อตอบโจทย์เรื่องใดก็มาเก็บเกี่ยวไปปรุงในแบบที่ต้องการ ตัดปัญหาเรื่อง junk in, junk out ลงไปได้เสียที ข้อมูลผู้ป่วยที่มารับการรักษาพยาบาล หรือที่เข้ามาติดต่อที่โรงพยาบาลในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุข สำคัญมากด้านนโยบายสุขภาพของประเทศ ข้อมูลทำนองนี้หาได้ยาก เมื่อต่างโรงพยาบาลต่างก็เก็บข้อมูลตามสไตล์ของตัวเอง หรือตามความพอใจของผู้บริหารหรือผู้ดูแลงานข้อมูลแต่ละโรงพยาบาล ยิ่งโรงพยาบาลที่ต่างแผนกต่างเก็บข้อมูลของตัวเองในแบบของตัวเอง การนำข้อมูลมารวมกันเพื่อดูภาพรวมยิ่งยากมาก แถมบางครั้งการนำข้อมูลจากแผนกหนึ่งไปใส่ใหม่ในอีกแผนกหนึ่งเพื่องานของแผนกนั้น เกิดความผิดพลาด ข้อมูลไม่ตรงกัน โทษกันไปมา แล้วก็ต่างคนต่างแยกกันทำยิ่งขึ้น ต่างคนต่างก็บอกว่าแบบของตัวเองถูกต้องกว่า ไม่เป็นอันสิ้นสุด ข้อมูลจะเชื่อถือได้ก็ต่อเมื่อนำเข้า ณ จุดใดจุดหนึ่งเพียงจุดเดียว แล้วข้อมูลก็เดินทางไปยังจุดต่างๆ เพื่อทำงานในแต่ละด้าน ไม่มีใครสามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ได้บันทึกแล้วได้อีกเลย โดยมากจุดเดียวนั้นคือจุดตั้งต้น หรือจุดที่จะมีการสอบกระทบยอดทุกวัน ณ จุดตั้งต้นมักมีผู้สอบทานภายนอกด้วย (เช่นข้อมูลชื่อคนไข้ คนไข้ก็เห็น หรือลองคิดถึงเรื่องที่คุ้นเคยกันอยู่ คือการฝาก-ถอนเงินที่ธนาคาร ลูกค้าเจ้าของเงินนั่นเองที่เป็นผู้ตรวจสอบยืนยันความถูกต้องของข้อมูลที่พนักงานธนาคารนำเข้าระบบของธนาคาร) นี่คือหลัก SINGLE DATA ENTRY ถ้าโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขยึดหลักการทำ single data entry ทั่วทุกโรงพยาบาล (ทั้ง สำนักงานปลัด และกรมอื่นๆ ในกระทรวงสาธารณสุข ทั่วประเทศ) เราก็จะได้ data จำนวนมากจากทั่วประเทศ ยิ่งถ้าโรงพยาบาลของรัฐทำด้วยกันหมด คือ โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงกลาโหม มหาดไทย และมหาวิทยาลัย ด้วย ก็ยิ่งได้ data มากยิ่งขึ้น นี่คือ กองดาต้าจำนวนมหาศาล จะนำไปใช้ก็ดี ขายก็ได้ (หมายถึง data รายกลุ่ม ไม่ใช่รายบุคคล) สุดแท้แต่เจ้าของข้อมูล และผู้จะใช้ข้อมูล เช่น นักวิจัย นักวางแผน ฯลฯ ผลดีคือ (ก) การทำวิจัยในระยะต่อไปไม่ต้องของบฯ ไปเก็บข้อมูล เพราะข้อมูลมีอยู่แล้ว และ (ข) การทำนโยบายบางด้านไม่ต้องเดา เพราะมีข้อมูลยืนยัน ทั้งนี้หมายถึงว่าผู้ทำต้องฉลาดที่จะตั้งคำถามและมีทักษะในการหยิบคำตอบออกมาจากกองดาต้า Big data สำหรับงานสุขภาพของชาติที่ทำผ่านระบบโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข ใช้ต้นทุนน้อย ได้ประโยชน์ทั้งในงานโรงพยาบาล และจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างมาก เชื่ออย่างยิ่งว่า Big Data จากกระทรวงสาธารณสุขเป็นงานง่าย ขอเพียงเข้าใจและตั้งใจ ทีนี้แหละ จะคุยได้เต็มปากเสียทีว่า เรามี Big Data ของจริง นวพร เรืองสกุล ๑๔ …