Month: May 2017

จากนา (และสวน) มาเป็นเมือง

น้ำท่วมขังในเมืองทุกครั้งที่ฝนตกหนัก นอกจากพลเมืองจะไม่ช่วยกันรักษาคูและท่อระบายน้ำให้สะอาดเพื่อให้น้ำไหลสะดวกแล้ว ยังเป็นเรื่องการใช้ที่ดินที่ขาดการวางผังอย่างดีอีกด้วย  และการไม่วางผังอย่างดีมีผลข้างเคียงอื่นๆ อีก เช่น ทุเรียนนนท์ตอนนี้แพงลิบ ฯลฯ​  เรื่องนี้เขียนเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ลงพิมพ์ในนิตยสาร สตรีสาร  และรวมพิมพ์เป็นตัวอย่างบทความในหนังสือน้ำหมึกหลากสี ฯ ตอน นักเขียนฝึกหัด เห็นว่ายังใช้ได้อยู่กับสภาพวันนี้ และยังแพร่กระจายไปสู่เมืองหลักในภูมิภาคต่างๆ อีกด้วย จึงนำมาเสนอไว้อีกครั้ง  – นวพร เรืองสกุล 28 พ.ค. 2557 ตอนที่เครื่องบินพร้อมจะร่อนลงสนามบินดอนเมือง ผู้โดยสารมีโอกาสได้เห็นกรุงเทพมหานครทางอากาศถนัดตา ตั้งแต่แม่น้ำเจ้าพระยาที่ทอดคดเคี้ยว คลังน้ำมันแถวคลองเตย ตึกสูงอันเป็นจุดสังเกตถนนสุขุมวิท ย่านบ้านจัดสรรหลังคาบ้านติด ๆ กัน นาน ๆ จะเห็นสีเขียวให้พักหายใจสักหย่อมหนึ่ง เช่น บริเวณวัดและสนามกอล์ฟ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่มีอาคารปลูกสร้างประปรายชิดริมทาง ถัดออกไปจะเห็นสีเขียวเป็นพืด แสดงให้เห็นว่าเป็นที่ดินที่ใช้เพื่อการเกษตร ผู้ใหญ่เคยเล่าให้ฟังว่าเขตพระโขนงนั้นเดิมเป็นท้องนา คนสมัยใหม่พอนึกภาพได้จากภาพยนตร์เรื่อง แผลเก่า ซึ่งฉากในเรื่องสมมุติว่าเป็นเรื่องของหนุ่มสาวบ้านนาริมคลองแสนแสบ มองจากท้องฟ้าจะเห็นว่าปัจจุบันนี้ตึกกำลังรุกที่นาให้ถอยร่นออกไป “เป็นเรื่องจริงที่แปลก” เพื่อนนักเศรษฐศาสตร์ผู้หนึ่งปรารภ “เรามีที่ดินทำการเกษตรดี ๆ กลับเอามาถมที่สร้างเป็นเมือง แล้วคนที่จะทำการเกษตรก็ต้องไปหักร้างถางพงทำการเพาะปลูกในที่ที่บุกเบิกใหม่ ซึ่งเนื้อดินอาจไม่เหมาะเท่าของเดิม” เรื่องนี้เป็นเรื่องแปลกที่พอมีเหตุผลอธิบายได้ เมื่อคนเราแรกตั้งถิ่นฐานจะเลือกพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ การคมนาคมสะดวก ซึ่งหมายถึงที่ดินที่จะทำการเพาะปลูกได้ดีและอยู่ใกล้น้ำ เมื่อพัฒนามากเข้ากลายเป็นชุมชน ส่วนหนึ่งของพื้นที่จะแปรสภาพเป็นย่านตัวเมืองมีหน้าที่สำคัญในการให้บริการ เมื่อคนอยู่มากเข้า ความเป็นเมืองก็มีมากขึ้น และเพราะคนในเมืองใช้พื้นที่ในการประกอบอาชีพน้อยกว่าคนที่ทำการเกษตร คนหนาแน่นเข้า ที่ดินมีราคาแพงขึ้น ท้องนาก็ขยับห่างออกไปเพราะถูกตึกเบียด “(สวน)ตรอกจันทน์ก็หมดไปแล้ว เดี๋ยวนี้แม้แต่นนทบุรีและนครปฐมซึ่งเป็นแหล่งปลูกผลไม้ที่ขึ้นชื่อ ก็กำลังกลายเป็นย่านบ้านจัดสรร กลายเป็นชานเมืองของกรุงเทพฯ อีกหน่อยเราอาจไม่มีวาสนาได้กินทุเรียนนนท์ จะได้กินก็แต่ทุเรียนนอก เขตรังสิตที่มีคูคลองมากมาย น้ำท่าหาได้ง่าย ก็กำลังจะกลายเป็นย่านโรงงานอุตสาหกรรม แล้วเราก็ต้องไปทำการขุดคูขุดคลองใหม่ที่อีสาน แปลกดี” ถ้ามีการวางแผนให้ถูกต้อง ที่ซึ่งทำการเพาะปลูกไม่สู้ได้ผลต่างหากที่ควรจะเป็นที่ตั้งของเมือง ในยุคที่ประชากรเพิ่มจำนวนขึ้นมาก จนถึงกับบางประเทศหาทางระบายประชาชนออกจากประเทศของตน ความสำคัญของสินค้าประเภทอาหารก็จะยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ทั้งอาหารสำหรับคนและสำหรับสัตว์ที่เป็นอาหารของคนอีกทอดหนึ่ง เคยมีผู้กล่าวว่าความสำคัญของสหรัฐอเมริกาและแคนาดาในอนาคตอยู่ที่พื้นที่เพาะปลูกกว้างขวาง และผลิตสินค้าเกษตรได้จนเหลือกินเหลือใช้ เพราะจะใช้สินค้าเหล่านี้เป็นเครื่องมือต่อรองในทางการเมืองระหว่างประเทศได้ ญี่ปุ่นก็เข้าไปทำการเกษตรขนาดใหญ่ในอเมริกาใต้ เพื่อให้มั่นใจว่ามีสินค้าเกษตรสำหรับพลเมืองในประเทศของตน บางคนถึงกับกล่าวว่าเวียตนามบุกเขมรแบบล้างชาติ เพราะอยากได้ลุ่มแม่น้ำโขงที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกในประเทศตนเสียหายมากจากการสงครามยืดเยื้อ ประเทศของเราก็เป็นประเทศเกษตร การพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากวิทยาการแล้ว สิ่งที่จำเป็นยิ่งอีกสิ่งหนึ่งก็คือ ที่ดิน ถ้าเราไม่มีนโยบายจัดเขตการค้า อุตสาหกรรม และเขตการเกษตรให้ดีแล้ว อีกไม่นานเราอาจจะพบว่า ในขณะที่สินค้าเกษตรเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการต่อรองระหว่างประเทศที่สำคัญ เรากลับไม่มีหลักประกันชิ้นนั้น เพราะที่ดินดี ๆ ของเราได้จมอยู่ใต้พื้นคอนกรีตเสียหมดแล้ว “พรนภา” “จากนามาเป็นเมือง” คอลัมน์วิจัย วิจารณ์  สตรีสาร ปีที่ 32 ฉบับที่ 39   16 ธันวาคม 2522 (ภาพเปิดเรื่อง ริมถนนพุทธบูชาที่ตัดใหม่ นครศรีธรรมราช  พ.ศ. 2556 ภาพใน featured image ประสบการณ์น้ำท่วมบ้านที่เชียงใหม่ หลายปีมาแล้ว และภาพปิดเรื่อง ริมทางในกรุงเทพฯ พ.ศ. 2557) ธรรมชาติที่เคยเห็นเจนตา บัดนี้จางหายไปมากแล้วต้องเสาะแสวงหาจึงเห็น

น้ำหมึกหลากสี (เล่ม ๒) “นักเขียนฝึกหัด” กับคุณนิลวรรณ ปิ่นทอง

Book Notice ชื่อหนังสือ น้ำหมึกหลากสี   72 ปีแห่งการเขียนและเรียนรู้ เล่ม ๒ ตอน “นักเขียนฝึกหัด”​ ผู้เขียน นวพร เรืองสกุล ผู้จัดจำหน่าย  ศูนย์หนังสือจุฬาฯ 0 2255 4433 http://www.chulabook.com สำนักพิมพ์  KnowledgePlus 08 1825 8929 ราคา 189 บาท หนังสือเล่ม ๒ ในชุด น้ำหมึกหลากสี ที่ทำนองจะเป็นอัตชีวประวัติ แต่ก็ไม่เชิง เพราะมีแต่ส่วนที่เป็นงานเขียนเป็นหลัก เล่มแรกเล่าถึงการเรียนและการเขียนในวัยเด็กจนจบโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  เล่มสองนี้ เล่าเรื่องตอนที่เข้าเป็นนิสิตคณะอักษรศาสตร์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2505 ก็ 55 ปีมาแล้ว มีบันทึกประจำวันที่วิพากย์วิจารณ์ทั้งเรื่องเดินขบวนทวงเขาพระวิหาร และเรื่องการเชียร์รักบี้และฟุตบอลประเพณีในสมัยนั้น  ซึ่งแตกต่างจากสมัยนี้อย่างสิ้นเชิงในเรื่องวิธีเล่นสนุกของเด็กวัยไม่ถึงยี่สิบ และนึกแปลกใจตนเองว่าแม้แต่สมัยนั้นก็เป็นนักวิจารณ์แล้ว แม้ว่าจะแอบวิจารณ์เงียบๆ ไว้ในสมุดบันทึกประจำวันก็ตาม  ในบันทึกยังเล่าเรื่องการสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา และค้นเจอข้อสอบที่สอบในสมัยนั้น จึงคัดบางส่วนมาลงไว้ให้คนรุ่นใหม่ดูว่า ข้อสอบแบบที่เคยสอบเรียกว่า ยากหรือง่าย นอกจากนั้นก็มีเรื่องการเรียนและงานกับการเที่ยวช่วงปิดภาคฤดูร้อนสมัยเป็นนักศึกษาที่สหรัฐอเมริกา  ส่วนสำคัญในหนังสือเล่มนี้เป็นไปตามชื่อรองของหนังสือ คือการหัดเป็นนักเขียน ที่กลายมาเป็นงานที่ทำมาสม่ำเสมอมาจนกระทั่งทุกวันนี้  คนที่ขัดเกลา สนับสนุน แนะนำ ที่สำคัญที่สุดคือบรรณาธิการนิตยสาร สตรีสาร คุณนิลวรรณ ปิ่นทอง  เนื่องจากหนังสือนี้ตั้งใจเสร็จให้ทันวันงานพระราชทานเพลิงศพคุณนิลวรรณ ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2560 นอกจากที่วางจำหน่ายตามปกติแล้ว ผู้เขียนและเพื่อนหลายคนได้ร่วมกันมอบหนังสือจำนวนหนึ่งเป็นของชำร่วยในงาน เป็นการรำลึกถึงท่าน บ.ก. และนิตยสารที่พวกเราเคยอ่านมาคู่กับชีวิตนิสิตและชีวิตการทำงานของพวกเรา ในหนังสือมีภาพสมัยนั้นประกอบหลายภาพ แม้คุณภาพของภาพต้นฉบับและคุณภาพกระดาษไม่เอื้อให้ได้ภาพสวยเท่าที่ต้องการ แต่ก็คงจะช่วยทำให้คนเก่าได้รำลึกถึงความหลัง และคนรุ่นใหม่พอได้รู้จักบรรยากาศสังคมสมัยนั้นเพิ่มขึ้นบ้าง นวพร เรืองสกุล ภาพเพื่อนวันรับน้องใหม่ เดินเข้าสนามกีฬา วันฟุตบอลประเพณี และน้ำท่วมที่ธนาคารแห่งประเทศไทยสมัยปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ภาพงานทำหน้าในนิตยสารสตรีสารสมัยโน้นที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้จัดหน้า ต้องเรียงแล้วมาจัดหน้าอีกทีหนึ่งด้วยวิธีแปะปะ  

Shanghai 2017:  urban development 

ภาพคราวน้ีเป็นย่านต่างๆ ในเซี่ยงไฮ้ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยการวางแผนอย่างรอบคอบ เป็นย่านที่เกิดขึ้น by design ไม่ได้เกิดแบบจับพลัดจับผลูเกิดขึ้นมาเอง  ได้แก่ การฟื้นฟูย่านเดิมที่มีประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมน่าสนใจ อันเป็นวิถีของเมืองมาแต่เดิม คือย่าน Xin Tian Di ที่เป็นบ้านใหญ่ๆ  และย่าน Tianzifang ที่เป็นชุมชนเดิม แต่ละอันพัฒนาโดยคงบริบทสังคมเดิม ย่านแรกเป็นย่านของดีมีชื่อ ทั้งของจีนสมัยใหม่และสินค้ายี่ห้อระดับโลก รวมทั้งร้านอาหารดังๆ ด้วย ส่วนย่านหลังพัฒนาจากร้านค้าเรือนแถวที่มีทางเดินเล็กๆ แคบๆ ชวนให้นึกถึงตลาดนางเลิ้งอย่างยิ่ง  การปรับปรุงบริเวณเดิมให้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น เช่น ถนน Nanjing ทั้งสาย ส่วนตะวันออก เป็นถนนไว้เดิน ส่วนตะวันตกเป็นถนนกว้างบาทวิถีกว้าง ประดับประดาด้วยดอกไม้สดสวย หน้าอาคารหลายแห่งตั้งประติมากรรมสมัยใหม่น่าสนใจ ถนนทั้งสายเป็นที่ตั้งของร้านสินค้าแบรนด์เนม ส่วนกลางคืนสองข้างถนนประดับไฟและร้านค้าเองก็แข่งกันเล่นสีแสงไฟ สวยเจิดจ้า อีกบริเวณที่ได้รับการปรับปรุงและขยายจนกลายเป็นที่เดินเล่นยอดนิยมคือ the Bund ริมแม่น้ำ (ดูภาพจาก เซี่ยงไฮ้ 2017 ตอน ๑)  ส่วนอีกฝั่งแม่น้ำคือฝั่ง Pudong สวนที่มองมาเห็น the Bund ซึ่งเดิมก็ดูดีอยู่แล้ว กำลังมีการบูรณะปรับปรุงใหญ่ น่าสนใจจะตามไปดูว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร) การพัฒนาบริเวณขึ้นมาใหม่ คือ ย่าน Pudong  ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ  ปัจจุบันมีประชากรประมาณ ๕ ล้านคน เป็นย่านที่มีอาคารสูงรุ่นใหม่จำนวนมาก ซึ่งคงจะวางแผนอย่างดีจึงไม่เบียดเสียดกันและไม่บังกัน เช่น Oriental Pearl Tower, Jin Mao Building, World Financial Center มี Century Avenue เป็นแกน และมีส่วนประกอบอื่นของเมืองครบครัน เช่น สวนขนาดใหญ่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ศูนย์ศิลปการแสดง กระทั่งเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ (Pudong เป็นพื้นที่ระหว่างแม่น้ำกับทะเลจีน อันเป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิก)  Disney Resort มีสวนสนุกและพื้นที่พัฒนาเป็นที่พัก พร้อมทะเลสาบกว้างใหญ่ แต่ว่าส่วนที่เป็นสวนสนุกเล็กมากเมื่อเทียบกับเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมณฑลเดียวก็มีประชากรเท่ากับประเทศไทยทั้งประเทศแล้ว  คนไปเยือนดิสนีย์แลนด์จึงต้องเข้าคิวกันอย่างอดทน ตั้งแต่เข้าคิวเข้าบริเวณ ไปจนถึงเข้าคิวชม attraction ต่างๆ บางอันคิวอาจจะยาวให้รอถึง ๗๕ นาที  (เรื่องดิสนีย์ไม่ได้นำภาพมารวมไว้ในครั้งนี้ เพราะเกรงว่าจะยาวเกินไป)  เคยเขียนการพัฒนาย่านต่างๆ ของเมืองไว้ในหนังสือภาพชื่อ …เยี่ยมย่าน..ยลเสน่ห์มหานคร ภาพบันทึกจากแดนอาทิตย์อุทัยถึงคนกรุงเทพฯ (2559) และเรื่องย่าน Xin Tian Di และย่าน Tianzifang ของมหานครเซี่ยงไฮ้้ในหนังสือภาพชื่อ ถนนน่าเดิน ๑๓ เมือง ๔ ทวีป (2555) หนังสือเหล่านี้ยังหาได้จากศูนย์หนังสือจุฬาฯ (call center 0 2255 4433) ที่มีบริการรับคำสั่งซื้อและจัดส่งทั่วประเทศ หรือจากสำนักพิมพ์ Knowledge Plus (081 825 8929) มีข้อสังเกตว่าในการพัฒนาย่าน  ทางการไม่ลืมพัฒนาการคมนาคมให้สะดวกด้วย พัฒนาการขนส่งมวลชนเพื่อให้ผู้คนจำนวนมากเข้าถึงได้ เพื่อสร้างชีวิตให้กับเมือง แม้กระทั่งดิสนีย์แลนด์ที่สร้างไกลออกไป ก็ไปถึงได้ด้วยรถใต้ดินฯลฯ  ด้วยราคา ๓๐ บาทจากกลางเมือง แม้แต่ราคาแท็กซี่ซึ่งตั้งต้นที่ 70 บาท ราคาโดยรวมก็ไม่แพงกว่าแท็กซี่ในกรุงเทพฯ สภาพรถดี และไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร การพัฒนา Pudong เป็นย่านใหม่ ไม่ลืมสาธารณูปโภคทุกอย่าง ตั้งแต่ถนน ทางด่วน  สะพาน อุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำ รถใต้ดิน สนามบินนานาชาติ และรถไฟความเร็วสูงจากสนามบินสู่ใจกลางย่าน ขอกล่าวถึง ๒ ย่านโดยย่อ คือ Pudong ย่านนี้พัฒนาจากนาข้าวและเป็นเขตชนบทห่างไกลความเจริญ เพราะมีแม่น้ำขวางกั้น (คงเหมือนฝั่งธนบุรีสมัยที่ยังไม่มีสะพาน เพียงแต่ว่าของเราเดิมเป็นสวนผลไม้  และการพัฒนาไม่ได้วางแผนรวม หรืออีกทีก็คือย่านพระราม ๓ ที่ตั้งใจให้เป็นศูนย์การเงินแห่งใหม่แทนสีลม แต่ว่าขาดการวางสาธารณูปโภคในภาพรวม) การพัฒนาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ …

เซี่ยงไฮ้ 2017 ตอน ๒ ตลาดผ้าและอาหาร

หมายมั่นปั้นมือไปตัดเสื้อที่เซี่ยงไฮ้ แต่ได้ผ้าพันคอมาแทน ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ถนนนานจิงย่านคนเดิน แต่ร้านก็มีอีกหลายสาขา ความสวยอยู่ที่แพรเนื้อนิ่ม สีสันสดใส จากภาพเขียนของศิลปิน เล่าเรื่องราวของเส้นทางสายไหม อันเป็นเส้นทางการค้าของจีนกับตะวันตกมาแต่โบราณ ผ้าพันคอไหมที่นำภาพของศิลปินมาทำเป็นลายผ้าเป็นความชอบส่วนตัวอยู่แล้ว เหมือนกับเป็นภาพที่เราพกพาเคลื่อนที่ไปได้ ไม่ต้องแขวนนิ่งอยู่บนผนังบ้านแต่อย่างเดียว  ผ้าผืนนี้มาต่อแถวพันคอ ของ The Met นิวยอร์ก และ จิม ทอมป์สันของไทยเราเอง (ที่นำภาพของ ศ. อิทธิพล ตั้งโฉลกมาใช้)  Shi Liu Pu Fabric Market ย่านเก่าของเซี่ยงไฮ้ขายทั้งผ้าและวัสดุประกอบการตัดเย็บ และรับตัดเย็บเสื้อผ้าไปด้วยในร้านเดียวกัน  เดินไปก็นึกถึงร้านค้าน้อยใหญ่ในตึก ไชน่า เวิลด์ (ตึกเซ็นทรัล วังบูรพา เดิม)  ที่พาหุรัด ของเรา แต่ของเรามีผ้านานาชาติ ร้านค้านานาชาติ ขาดการรับตัดเย็บเป็นการทั่วไป ที่ต้องทำทุกวันวันละสามเวลาคือ รับประทานอาหาร จึงมีข้อสังเกตมากมายเกี่ยวกับอาหารเท่าที่เห็นมา น้ำผลไม้นานาชนิดมีขายทั่วไป ทั้งปั่น ทั้งบีบแยกน้ำแยกกาก  และขายผลไม้สดใส่ถ้วยแบบถ้วยกาแฟมีฝาปิด เคยนับผลไม้ได้ถึง ๘ ชนิดในหนึ่งแก้ว อาหารไม่หวาน แม้แต่ของหวานก็แค่หวานปะแล่มๆ น้ำเปล่าที่เสิร์ฟให้เป็นน้ำธรรมดา ไม่มีน้ำแข็งมาในถ้วยหรือในถัง น้ำอัดลมหายาก กาแฟของร้านท้องถิ่นก็หายาก น้ำซุป น้ำซอสมีหลากหลาย หลายร้านอร่อยด้วยน้ำซุปกระดูกหมู และเขาก็เขียนปะป้ายไว้เช่นนั้น  การปรุงอาหารในหลายแห่งยังพิถีพิถันตามแบบเดิม สั่งข้าวต้มหรือข้าวอบ รออยู่นานกว่าจะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำสำเร็จแล้วเขาต้องอบใหม่จนร้อนฉ่าและเข้ากันดี เสิร์ฟมาร้อนๆ ในกระจาดสาน (ก็มันร้อนน่ะ) อาหารในฟู้ดคอร์ทมีหลายคุณภาพ ตามความรู้สึกส่วนตัว ส่วนมากพึ่งพาได้และฟูดคอร์ทหาได้ทั่วไป เช่น ในอาคารที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าหรือในอาคารสำนักงานต่างๆ  บางแห่งเช่นในภาพข้างต้น เหมือนกับร้านค้าย่อย บางแห่งก็แสดงเครื่องปรุงหลากหลายให้เลือกอย่างน่าตื่นตา  อาหารต่อจานประมาณ 125 บาท  ไปกินอย่างดีกันสองคน​ อิ่มและอร่อย ก็ประมาณ 500 บาท ระบบเงินอิเล็กทรอนิกส์ เห็นได้ชัดเจนในเซี่ยงไฮ้ การจ่ายค่าอาหาร ค่ารถไฟฟ้า ฯลฯ ใช้บัตรได้ เช่น Alipay Applepay ฯลฯ ประหยัดเงินตรา ประหยัดคน ในขั้นตอนการเก็บเงิน จ่ายเงิน ทอนเงิน แม้ว่าจีนจะมีประชากรมากมาย แต่ก็ก้าวไปกับระบบอิเล็กทรอนิกส์แล้ว เพราะความสะดวกรวดเร็วและประหยัด ไม่ต้องรอให้คนไม่มีเสียก่อน ของเราแม้ว่าจะแรงงานขาดแคลนแต่ก็ยังใช้คนทำงานจำนวนมาก ขัดกับความขาดแคลน และแก้ปัญหาด้วยการใช้แรงงานต่างด้าว   ของเคยอยู่ในซองใหญ่ ก็แพ็คเล็ก กินได้พอคำ เช่น หมูแผ่น ลูกพรุน และขนมอีกหลายชนิด   อาหารจีนหลายชนิดปรับรูปแบบให้เข้ากับวิถีชีวิตสมัยใหม่คือถือกินได้ไม่ต้องนั่งโต๊ะ เช่น เป็ดปักกิ่ง ไข่พะโล้ เป็นต้น  ร้านข้างล่างนี้อยู่ใกล้สถาบันการศึกษา ชวนให้คิดว่า ถ้าสถาบันการศึกษาบ้านเราจะมีคนคิดปรับรูปแบบการเสิร์ฟอาหารเสียบ้าง ก็น่าจะเป็นคุณกับนักศึกษาที่หลายแห่งแทบไม่มีเวลารับประทานอาหารกลางวัน เพราะว่ามีหยุดพักเที่ยงไม่ถึงชั่วโมง หรือแทบไม่มีเวลาให้กินอาหารเลย ซึ่งผิดวิสัยการดูแลอนาคตของชาติ อยากทำอาหารแบบข้าวปั้นห่อ ไส้หมูปิ้ง ฯลฯ หลากหลายแบบที่คิดขึ้นมาได้ ขอเพียงสถาบันการศึกษาใส่ใจอีกหน่อย มะพร้าวทั้งน้ำและเนื้อเป็นที่นิยมมาก มิน่าบ้านเราแพงขึ้นมากและหายาก  ตู้ขายน้ำส้มคั้นสด จ่ายเงินแบบหยอดเหรียญมีให้เห็นทั่วไป ส่งเสริมการดื่มน้ำผลไม้ และเห็นเด็กผู้ชายกดน้ำส้มเองโดยมีพ่อยืนดูอยู่  เป็นการฝึกเด็กที่ดี แทนที่ผู้ใหญ่จะคอยทำให้ทุกอย่าง คนช่างสงสัยยังสงสัยว่า เขาล้างตู้อย่างไร ระหว่างที่คิดว่า น่าจะเอามาติดตั้งในเขตมหาวิทยาลัยในบ้านเราบ้าง เพื่อส่งเสริมการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ (ถ้าส้มและเปลือกส้มไม่เคลือบยาฆ่าแมลงจนกายเป็นทุกขภาวะ) ร้านยอดนิยมมีคิวยาว เช่น ร้าน “ฉันยุ่งมาก” ขายมะม่วงปั่น นึกไม่ออกว่าเข้าแถวกันทำไม ให้นึกภาพนักท่องเที่ยวจีนยืนเข้าแถวหน้าร้านผัดไทยตรงวัดราชนัดดาฯ ก็แล้วกัน  ร้านขายขนมแป้งสีเขียวไส้ถั่วแดง บางร้านก็คิวยาว บางร้านก็ไม่มีคิว คงขึ้นอยู่กับความนิยมและคำร่ำลือ  โดยทั่วไปไม่เห็นหาบเร่แผงลอย แต่ในย่านเก่าที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น บริเวณใกล้เคียงกับสวนยู่หยวน ที่มีอาคารร้านค้าทรงจีน ยังเห็นร้านข้างทางเป็นแสงสีให้สนุกสนานอยู่บ้าง ร้านในย่านสมัยใหม่ ตกแต่งให้แตกต่าง และการเสิร์ฟอาหารก็ต้องคิดประดิษฐ์ให้แตกต่าง  ดังตัวอย่างร้านในอาคารซุปเปอร์แบรนด์ ฝั่งใหม่   เซี่ยงไฮ้ให้ข้อคิดอีกหลายอย่าง นอกจากเรื่อง electronic payments และเรื่อง new …

สหกรณ์ออมทรัพย์​   ความเสี่ยงทั้งตรงและแฝงที่ควรได้รับการบริหารจัดการ

ไม่ว่าจะมีชื่อเรียกเป็นอย่างไรก็ตาม สหกรณ์ออมทรัพย์เป็นสถาบันการเงินประเภทหนึ่ง แต่เดิมมาขอบเขตการดำเนินงานจำกัดอยู่ในกลุ่มสมาชิกเท่านั้น แต่ในเวลานี้สหกรณ์ออมทรัพย์แต่ละแห่งทำธุรกรรมข้ามสถาบันเป็นเงินจำนวนสูง และลงทุนในตลาดทุนด้วย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวสหกรณ์นั้นๆ เอง    ด้วยเหตุนี้ จึงสมควรรื้อวิธีการกำกับดูแลเสียใหม่ให้ทันกับการขยายธุรกรรม และพัฒนาการของตลาดทุนที่เปลี่ยนแปลงไปมากนับแต่แรกมีการคิดตั้งสหกรณ์ ปี พ.ศ. 2554  เคยทำรายงานให้กับองค์กรระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง เรื่องการพัฒนาภาคการเงิน การพัฒนาตลาดทุน เพื่อดูช่องว่างที่ควรมีการพัฒนา ข้อเสนอแนะที่กล่าวไว้สั้นๆ เรื่องหนึ่งคือ การกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์ “กระทรวงการคลังและผู้กำกับดูแลสถาบันการเงินอื่นๆ ควรร่วมกันกำกับดูแลกิจกรรมด้านการลงทุนของกิจการต่างๆ ทุกประเภทที่รับเงินฝากจากประชาชนหรือสมาชิก” “สหกรณ์ออมทรัพย์หลายแห่งนำเงินที่มีเหลือไปลงทุนในตลาดทุน การกำกับดูแลเพื่อให้เกิดการลงทุนที่รอบคอบระมัดระวัง และการประเมินความเสี่ยงจากการลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์ ควรเป็นงานของกระทรวงการคลัง มิใช่กระทรวงเกษตรฯ” พระราชบัญญัติสหกรณ์กำหนดว่า สหกรณ์คือคณะบุคคลที่ร่วมกับดำเนินกิจการที่เป็นประโยชน์เชิงเศรษฐกิจโดยสมาชิกช่วยกันและกัน สหกรณ์ออมทรัพย์ทำกิจการบางอย่าง เช่น •รับฝากเงินจากสมาชิกและจากสหกรณ์อื่น  •ให้กู้ยืมแก่สมาชิกและแก่สหกรณ์อื่น  และนำเงินไปทำธุรกิจอื่นๆ เพื่อประโยชน์ของสมาชิก •การบริหารเงินโดยการนำเงินไปฝากสหกรณ์อื่น ฝากธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินอื่นที่จะสนับสนุนกิจการสหกรณ์ ซื้อหุ้น ธกส หรือสหกรณ์อื่นและกิจการอื่นที่จะให้ความสะดวกกับการดำเนินงานของสหกรณ์ และฝากหรือลงทุนอื่นตามที่คณะกรรมการพัฒนาสหกรณ์ฯ กำหนด คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธาน กรรมการที่รู้/เข้าใจ ด้านการเงิน ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (กระทรวงการคลัง) ผู้จัดการใหญ่ ธกส.  และประธานกรรมการ ธนาคารอิสลาม  (คนสุดท้ายนี้รู้สึกสะดุดว่า เพราะเหตุใด ทำไมจึงต้องเจาะจงว่าเป็นธนาคารอิสลาม แทนผู้แทนธนาคารของรัฐแห่งหนึ่งแห่งใด  แต่ไม่ได้สืบค้นความเป็นมาให้ละเอียด จึงมีเพียงข้อสังเกต) อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์​ (ในกระทรวงเกษตรฯ) เป็นนายทะเบียน ทำหน้าที่รับจดและเพิกถอนใบอนุญาต กำหนดระบบบัญชีสหกรณ์ ตั้งผู้ตรวจการ และตรวจสอบฐานะการเงินของสหกรณ์ ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ ข้อสังเกตจากประสบการณ์ในเรื่องสหกรณ์ออมทรัพย์คือ ๑. ปกติสหกรณ์ออมทรัพย์มักตั้งขึ้นตามองค์กรต่างๆ และใช้ชื่อองค์กรนั้นๆ ต่อท้าย เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ในมหาวิทยาลัย ก็ใช้ชื่อมหาวิทยาลัยนั้นๆ ต่อท้าย เป็นต้น หลายคนที่ไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้จริงจังอาจจะไม่รู้ว่าสหกรณ์เป็นนิติบุคคลต่างหาก ไม่เกี่ยวข้องกับตัวมหาวิทยาลัยโดยตรง ส่วนที่เกี่ยวกันก็คือสมาชิกเป็นพนักงานทุกระดับในมหาวิทยาลัยนั้นๆ ซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์ในฐานะปัจเจกบุคคล ๒. ฝ่ายบริหารของหลายองค์กรไม่สอดส่องดูแลสหกรณ์ที่ใช้นามของตนต่อท้าย เพราะถือว่าเป็นนิติบุคคลต่างหาก โดยลืมไปว่าเมื่อเกิดปัญหาใดขึ้นมากับสหกรณ์​ ชื่อเสียงของสถาบันอาจจะถูกพาดพิงให้เสื่อมเสียไปด้วย  ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง (reputation risk) ทำให้หลายองค์กรให้ฝ่ายบริหารระดับสูงของตนเข้าไปเป็นประธานสหกรณ์  แต่ก็มีองค์กรจำนวนมากที่ไม่เห็นความสำคัญของความเสี่ยงนี้ หรือยอมตามฝ่ายบริหารสหกรณ์ที่ไม่ยอมให้เข้าไปดูแลใกล้ชิด    ๓. เคยได้ยินคนรู้จักบางรายที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์เล่าว่า เขาฝากเงินกับสหกรณ์เพราะได้ดอกเบี้ยดี โดยฝากผ่านเพื่อนหรือญาติที่เป็นสมาชิก แสดงว่าสหกรณ์ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์โดยอ้อมอีกจำนวนหนึ่ง ๔. สหกรณ์หลายแห่งรับเงินฝากโดยให้ดอกเบี้ยสูง ทั้งๆ ที่ไม่มีความจำเป็นต้องระดมเงินฝากมาเพื่อปล่อยกู้แก่สมาชิก (เพราะความต้องการสินเชื่อในหมู่สมาชิกมีน้อยมาก)  ถ้าเป็นการบริหารจัดการที่เหมาะสมแบบสถาบันการเงิน เมื่อไม่มีทางให้สินเชื่อก็ควรลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง แต่สหกรณ์มักไม่ทำเช่นนั้น ๕. สหกรณ์หลายแห่งนำเงินไปฝากสหกรณ์อื่นที่ขาดเงินเพราะมีสมาชิกผู้ต้องการกู้มากกว่าผู้ออม โดยในหลายๆ กรณีไม่ได้วิเคราะห์หรือไม่มีความรู้พอจะวิเคราะห์สถานะความมั่นคงทางการเงินของสหกรณ์ที่ตนนำเงินไปฝากหรือไปลงทุน อีกทั้งไม่ได้คิดว่าเป็นการทำงานที่เกินหน้าที่โดยไม่จำเป็น ทางที่ปลอดภัยและตรงกว่าคือทำตามข้อ ๔. ข้างต้น ๖. การลงทุนในตลาดทุน เช่น ซื้อหุ้นกู้ จำนวนไม่น้อยเลย โดยที่คณะกรรมการและผู้จัดการสหกรณ์นั้นๆ ไม่ได้มีวุฒิหรือประสบการณ์ที่เพียงพอในด้านการบริหารจัดการเงินของผู้อื่น นับว่าหลุดลอดตาข่ายการกำกับดูแลของหน่วยงานด้านตลาดทุนไป  หุ้นกู้บางชื่อที่สหกรณ์ซื้อ และฝ่ายบริหารยืนยันว่ามั่นคงมาก ในฐานะผู้เคยบริหารเงินทุนมาก่อนขอสรุปว่าฝ่ายบริหารไม่เข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับหุ้นกู้นั้นๆ ๗. สมาชิกปัจจุบันที่มีเงินอยู่ในสหกรณ์ไม่ได้สนใจกับการบริหารกิจการสหกรณ์ตามหน้าที่ที่ตนต้องทำ และมักมองแค่ว่าได้ดอกเบี้ยงามก็พอใจแล้ว ไม่ได้สงสัยว่าสหกรณ์หาเงินอย่างไรเพื่อมาจ่ายดอกเบี้ยเงินฝาก  คุณวุฒิและวัยวุฒิของคณะกรรมการสหกรณ์บางแห่งจึงน่ากังวล คือไม่มีกรรมการที่รู้เรื่องการเงินอย่างถ่องแท้ และหลายแห่งหลายคนก็มีวัยเกินเกษียณไปนานแล้ว  ๘. อธิบดีที่กำกับดูแลสหกรณ์ในกระทรวงเกษตรฯ  น่าจะถนัดด้านการเกษตรและการส่งเสริมมากกว่าการตรวจสอบบัญชีและการวิเคราะห์และกำกับด้านความเสี่ยงที่สืบเนื่องจากการเงินและการลงทุน การกำกับจึงอาจจะไม่ตรงประเด็น และประเมินความเสี่ยงได้ไม่ดีเท่าองค์กรที่ทำหน้าที่กำกับสถาบันการเงินโดยตรงที่ได้สร้างและสะสมองค์ความรู้ในด้านนี้เอาไว้มากแล้ว ในฐานะที่เคยเป็นผู้กำกับธนาคารพาณิชย์ และเคยเป็นผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ มาก่อน เป็นกังวลมากกับสถานะการณ์นี้ ยิ่งเมื่อดอกเบี้ยต่ำแต่สหกรณ์คงดอกเบี้ยสูงเอาไว้ และโตเอาๆ  ความเสี่ยงต่อระบบก็ยิ่งสูง  เพราะ กิจการใดที่จ่ายดอกเบี้ยเงินฝากสูงๆ ทั้งๆ ที่ปล่อยสินเชื่อไม่ได้ แปลว่ารายได้จากการให้สินเชื่อกับสมาชิกของตนเองไม่พอกับรายจ่ายที่จะจ่ายดอกเบี้ยสำหรับเงินฝากที่ได้รับมา   เมื่อไม่ลดดอกเบี้ยเพื่อไล่เงินฝาก ก็ต้องดิ้นรนหารายได้จากทางอื่นมาจ่ายดอกเบี้ย การดิ้นรนแบบนั้นเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุนในธุรกิจที่ตนไม่รู้จัก  สหกรณ์ไม่น่าจะระดมเงินฝากจากสมาชิกให้มากขึ้น ในเมื่อสมาชิกไม่ได้ต้องการกู้เงิน  การนำเงินฝากที่เหลือไปฝากสหกรณ์อื่นเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในระบบ เพราะถ้าสหกรณ์แห่งหนึ่งเกิดปัญหา ก็จะกระทบกันเป็นลูกคลื่น ยิ่งถ้าสมาชิกตัดสินใจลดเงินฝากในสหกรณ์ลงพร้อมๆ กัน สงสัยว่าสหกรณ์แต่ละแห่ง และอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์จะเผชิญกับปัญหาอย่างไร (ทั้งนี้ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องทุจริตใดๆ ในองค์กร ซึ่งเป็นปัญหาต่างหากจากเรื่องการบริหารจัดการการเงินที่เหมาะสม) นี่คือท่ีมาของการเสนอให้กระทรวงการคลังเข้าไปร่วมกำกับสหกรณ์ออมทรัพย์ในด้านการเงิน บัญชี และการลงทุน  เพื่อป้องกันไม่ให้สหกรณ์ออมทรัพย์กลายเป็นระเบิดเวลาทางการเงินลูกใหม่สำหรับผู้ออมเงินในสถาบันการเงินประเภทนี้ นวพร เรืองสกุล  8 …

เซี่ยงไฮ้ 2017

ไปเดินเล่นอยู่ที่เซียงไฮ้เป็นเวลา ๕ วันเต็มๆ  เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้สีสันสวยงามทั้งไม้ยืนต้นและไม้ล้มลุก ภาพนี้เป็นกำแแพงดอกไม้ ที่เป็นส่วนหนึ่งของกำแพงกั้นแม่น้ำ ด้านบนเปิดเป็นที่สาธารณะให้เดินเล่นได้  สะอาด สวยงาม เมื่อเดินขึ้นไปสุดบันได หันหลังมามอง จะเห็นผู้คนคลาคล่ำ ทั้งด้านบนและด้านล่างของลาน นึกถึงที่มีผู้เสนอให้ทำโครงการริมแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงยานนาวา ซึ่งเป็นช่วงที่กรุงเทพฯ ยังขาดเขื่อนกั้นแม้น้ำอยู่ช่วงเดียว ทำแล้วจะได้เส้นทางเดินเล่นแบบนี้ แต่ผู้มีอำนาจกลับดึงดันจะสร้างทางจักรยาน ๑๔ ก.ม. จักรยานสำคัญกว่าคนเดิน!! หันไปอีกทาง จะได้ภาพอาคารสูงของฝั่งพัฒนาใหม่เป็นย่านอาคารสำนักงาน แต่ละอาคารสร้างประชันแบบกันน่าชม อากาศสลัวหน่อยเพราะฝนทำท่าจะพรำลงมา ก็นี่เป็นฤดูใบไม้ผลิ ต้องการฝนมาปลุกให้ต้นไม้ตื่นจากหลับนานช่วงฤดูหนาว และฝนพรมให้ดอกไม้สดชื่น ด้านพื้นดินของทางเดินที่ยกสูงขึ้นไปแบบเป็นสันเขื่อน มีร้านค้า หน้าร้านหันออกถนนให้คนนั่งกินอาหารกลางแจ้งได้ ไม่มีร้านใดได้วิวแม่น้ำแบบกินไปชมวิวไป แบบนั้นเปลืองพื้นที่   เปิดวิวแม่น้ำให้กับคนส่วนมากดีกว่า จะชมวิวก็ชม จะกินก็กิน มีนิทรรศการใต้ดินให้ชม และมีรถคันเล็กที่แล่นบนราง แล่นในอุโมงค์มุดน้ำไปโผล่อีกฟาก  ในอุโมงค์มีแสงสีเสียง คำบรรยายคงจะน่าสนใจ แต่ไม่รู้ภาษาจีนก็ได้ยินเป็นเสียงเท่านั้นเอง ไม่เป็นภาษาที่เข้าใจได้       ดอกไม้สวยเห็นได้ทั่วไป ปลูกอยู่ริมทางก็มี ปลูกในกระถางใหญ่ก็มี เป็นกำแพงดอกไม้ก็มี   ส่วนที่เป็นกำแพงต้นไม้ดอกไม้ ที่ใส่มีหลายแบบ น่าจะพอบอกจากกระถางที่ใส่ต้นไม้ได้ว่า แบบไหนถาวร แบบไหนนำมาจัดวางเฉพาะกิจ น่าสังเกตว่าคนที่นี่ไม่หอบหิ้วของแต่ใช้วิธีลากกระเป๋าเดินทางไปด้วย  ซึ่งเราก็อาจจะเคยสะดุดตาอยู่บ้างเวลานักท่องเที่ยวจีนไปช้อปปิ้งแถวสยามพารากอน ที่มีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่วางรอไว้ให้บรรจุของ ส่วนสวนสาธารณะเป็นอีกหนึ่งที่พักผ่อนที่ไม่ต้องเสียเงิน  ในยามเช้าชาวเมืองวัยไม่ทำงานแล้วมาออกกำลังรำมวยจีน รำดาบ เล่นการละเล่นของท้องถิ่น เล่นว่าว ฯลฯ  ตามอัธยาศัย  ให้สังเกตราวสีเขียวๆ ริมสนาม ซึ่งใช้เป็นที่แขวนสัมภาระระหว่างที่ออกกำลัง ดูเรียบร้อยดี   อารมณ์เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ริมทางแยกของถนนคนเดิน นานจิงลู่    เอทีเอ็ม ที่นี่อยู่ในตู้มิดชิด ไม่ต้องคอยป้องมือเวลาจะกดรหัส เหมาะมากสำหรับเมืองที่ผู้คนมีพื้นที่ห่างระหว่างกันค่อนข้างน้อย  คือคนมักจะยืนประชิดตัวอีกคนหนึ่งอย่างเห็นเป็นธรรมดา     ที่ให้ใช้ชีวิตกลางแจ้งแบบไม่ต้องเสียเงิน มีมากมาย นอกจากสวนสาธารณะ สวนและกำแพงริมแม่น้ำทั้งสองฝั่งแล้ว ถนนสำหรับเดินเท้ากระทั่งทางลอยฟ้าข้ามสี่แยกที่โค้งไปรอบ (เหมือนทางลอยฟ้าตรงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) ก็ทำไว้กว้างขวาง ใช้เพื่อเดินเล่น ยืนเล่น รับลม ชมวิวได้ด้วย ทั้งกลางวันและกลางคืนซึ่งตึกระฟ้าสมัยใหม่ที่รายรอบจุดไฟสวยงาม  และที่น่าสังเกตมากคือหาบเร่ แผงลอย ร้านเร่ หายไปจากถนนใหญ่ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง นวพร เรืองสกุล   พฤษภาคม 2560